แต่งบ้านสไตล์ไหนดี?

แต่งบ้านสไตล์ไหนดี?

เพราะบ้านคือภาพสะท้อนของผู้อยู่อาศัย สไตล์การตกแต่งบ้านจึงบ่งบอกรสนิยมของผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี มองในอีกมุม บ้านนั้นเปรียบเสมือน คน 1 คนที่มีลักษณะและอุปนิสัยเฉพาะตัว สไตล์การแต่งบ้านนั้นมีหลากหลายมาก

ในวันนี้ blovkliving ขอหยิบยกสไตล์การตกแต่ง 5 แบบ ที่มีแนวคิดการตกแต่งเรียบง่าย แต่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นให้ได้ชมกันค่ะ

blovkliving รับออกแบบตกแต่งภายใน บ้าน คอนโด กรุงเทพ รับออกแบบตกแต่งภายใน เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน ผนังตกแต่ง ผ้าม่าน วอลเปเปอร์ บ้าน ทาวน์โฮม คอนโด กรุงเทพ โดยสถาปนิก, อินทีเรียดีไซน์เนอร์มืออาชีพ

1. Contemporary (ร่วมสมัย) ‘บ้านร่วมสมัยที่เชื่อมปัจจุบันกับอนาคตเข้าไว้ด้วยกัน’

เป็นแบบบ้านที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วง ค.ศ 1970 หรือจะเรียกว่าบ้านตามเทรนด์ก็ไม่ผิด เพราะการตกแต่งมีการหมุนเวียนตลอดเวลาให้เข้ากับยุคสมัย ตัวบ้านจึงมีลักษณะเรียบง่าย มินิมอล เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตาม ผู้อยู่อาศัยต้องมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับศิลปะพอสมควรในเรื่องของโทนสี วัสดุ แสงและเงา

คนส่วนใหญ่มักไม่เห็นความแตกต่างระหว่างบ้าน Contemporary กับ Modern แต่สิ่งที่สังเกตุได้ชัดๆ คือ Contemporary จะเน้นลักษณะโค้งมนสื่อสารถึงอารมณ์ที่อ่อนโยนมากกว่า Modern ที่แข็งแรง คม ชัด และเหลี่ยม

บรรยากาศ: เรียบหรู ทันสมัย กันเอง
โทนสี: ขาว ดำ เทา แต่งแต้มแม่สีอย่าง แดงสด น้ำเงิน เหลือง
จุดเด่น: ใช้วัสดุทันสมัย มีการจัดวางเลย์เอาชัดเจน โดยเน้นใช้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ใช้งานได้จริง แก้ว โลหะ

 

blovkliving รับออกแบบตกแต่งภายใน บ้าน คอนโด กรุงเทพ รับออกแบบตกแต่งภายใน เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน ผนังตกแต่ง ผ้าม่าน วอลเปเปอร์ บ้าน ทาวน์โฮม คอนโด กรุงเทพ โดยสถาปนิก, อินทีเรียดีไซน์เนอร์มืออาชีพ

2. Modern (โมเดิร์น) ‘บ้านแบบเรียบง่าย เน้นพื้นที่ใช้สอยเป็นหลัก’

สไตล์โมเดิร์นเป็นที่นิยมในคศ. 1950 ถึงปี 1960 โดยมีรากฐานการออกแบบที่บอกเวลาการเกิดได้และมักมีลักษณะที่ตายตัว แตกต่างจาก Contemporary ที่เปลี่ยนแปลงต่อเนื่องตามยุคสมัย  Modern มีความคลายคลึงกับ Contemporary ตรงที่ทั้ง 2 แสดงออกถึงความเรียบง่าย ไม่ยุ่งยาก ดูสะอาดตา รู้สึกถึงความเปิดโล่งของธรรมชาติภายนอก

บรรยากาศ: เรียบง่าย อบอุ่น แข็งแรง
โทนสี: ขาว ดำ เทา แต่งแต้มสี Earth tone เช่น เขียวมะกอก น้ำตาล หรือสีสนิม
จุดเด่น: ใช้เฟอร์นิเจอร์รูปทรงเลขาคณิตเข้ามาช่วยเพิ่มความโดดเด่น

 

blovkliving รับออกแบบตกแต่งภายใน บ้าน คอนโด กรุงเทพ รับออกแบบตกแต่งภายใน เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน ผนังตกแต่ง ผ้าม่าน วอลเปเปอร์ บ้าน ทาวน์โฮม คอนโด กรุงเทพ โดยสถาปนิก, อินทีเรียดีไซน์เนอร์มืออาชีพ

3. Loft (ลอฟท์) ‘บ้านเน้นโชว์โครงสร้างที่เกิดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2’

เป็นช่วงที่สภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้เกิดโกดังร้างจำนวนมาก มีการปฎิวัติอุตสาหกรรมเกิดขึ้นราวๆ ปีค.ศ. 1970 ทำให้การผลิตเกิดการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ระบบใหม่โดยการนำ ‘โลหะ’ มาใช้ในการผลิตข้าวของเครื่องใช้มากขึ้น รวมถึงโรงงาน และอาคารบ้านเรือน

หลังจากที่เราได้รู้จักสไตล์ Contemporary และ Modern กันไปแล้ว เราจะเห็นได้ว่าทั้งคู่มีความเป็นคนเมืองและมีกลิ่นอายของโลกยุคใหม่อยู่ค่อนข้างเยอะ แต่ในฝั่งของ Loft ผู้อยู่อาศัยจะได้สัมผัสกับกลิ่นอายของอดีตมากขึ้น ร้านกาแฟในปัจจุบันจึงนิยมตกแต่งสไตล์นี้ เพื่อให้คนเมืองได้ปลีกวิเวกจากความวุ่นวายของเทคโนโลยี ย้อนสู่โลกยุคเก่า

โดยมีแนวคิดตกแต่งให้บ้านดูโล่ง โปร่งสบายที่สุด ไม่เน้นเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน แต่เน้นแบบลอยตัว เคลื่อนย้ายได้ แต่ก็มีข้อเสียอยู่ที่ประสิทธิภาพการเก็บเสียงของโครงสร้าง เนื่องจากผนังเน้นฉาบหยาบๆ เท่านั้น

บรรยากาศ: ย้อนอดีต โลหะ เท่
จุดเด่น: ห้องเพดานสูง Open Space ที่มีช่องประตูหน้าต่างขนาดใหญ่ ภายในเน้นโชว์โครงสร้างของบ้าน วัสดุผิวเปลือย รวมถึงโทนสีของวัสดุนั้นๆ โดยมีองค์ประกอบหลักเป็น อิฐ เหล็ก ปูน ไม้

 

blovkliving รับออกแบบตกแต่งภายใน บ้าน คอนโด กรุงเทพ รับออกแบบตกแต่งภายใน เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน ผนังตกแต่ง ผ้าม่าน วอลเปเปอร์ บ้าน ทาวน์โฮม คอนโด กรุงเทพ โดยสถาปนิก, อินทีเรียดีไซน์เนอร์มืออาชีพ

4. Cottage (คอทเทจ) ‘บ้านแนวคันทรี่แถบชานเมืองในยุโรปและอังกฤษ’

เน้นวัสดุเรียบง่าย โชว์ผิวไม้ให้เห็นเอกลักษณ์ของลวดลายตามธรรมชาติ โดยไม่ได้ดัดแปลงให้มีส่วนเว้าโค้งมากนัก เช่นเดียวกับพื้นบ้านที่ใช้ไม้เป็นวัสดุ
องค์ประกอบสำคัญสำหรับการตกแต่งแนว Cottage อยู่ที่ของตกแต่งที่ให้ความรู้สึกเก่าเก็บหรือพวกของมือสอง เช่น พรม เพื่อให้บ้านดูเป็นสัดส่วนมากขึ้น เตียงไม้เหล็กดัด เพื่อนำมาเบรกกับวัสดุไม้ จานชามกระเบื้องแบบอังกฤษ และเติมความสดชื่นมีชีวิตชีวาด้วยดอกไม้สด ถึง Cottage จะมีความเก่าแต่ก็ไม่ได้เหมือน Vintage ซะทีเดียว หลักการง่ายๆ ในการแยกให้ดูที่เฟอร์นิเจอร์และโทนสีเป็นหลัก เพราะ Cottage จะเรียบง่ายกว่า เน้นโชว์ผิวไม้ธรรมชาติ และสีเอิร์ธโทน ในขณะที่ Vintage จะเน้นเฟอร์นิเจอร์ที่มีลวดลาย และโทนสีพาสเทล

บรรยากาศ: ผ่อนคลาย อบอุ่นจากไม้ ของเก่า
โทนสี: Earth tone ขาว ดำ เทา น้ำตาล และครีม
จุดเด่น: เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยไม่มากนัก สวยหวานตามธรรมชาติ มีความโมเดิร์นแฝงความวินเทจเบาๆ

 

blovkliving รับออกแบบตกแต่งภายใน บ้าน คอนโด กรุงเทพ รับออกแบบตกแต่งภายใน เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน ผนังตกแต่ง ผ้าม่าน วอลเปเปอร์ บ้าน ทาวน์โฮม คอนโด กรุงเทพ โดยสถาปนิก, อินทีเรียดีไซน์เนอร์มืออาชีพ

5. Coastal (โคสทัล) ‘บ้าน Hideaway ที่ทำให้นึกถึงชายหาด’

ใครที่อยากเนรมิตบ้านให้ Feel good หมือนได้ไปตากอากาศริมทะเลตลอดเวลา สามารถนำสไตล์ Coastal มาผสมผสานกับการตกแต่งภายในบ้าน ตามโซนต่างๆ ได้ค่ะ เพราะแค่ได้เห็นก็ได้รับความสดชื่น และผ่อนคลายกลับมาแล้ว เนื่องจากเป็นการตกแต่งโทนสีเย็น จึงให้ความรู้สึกเย็นสบาย เหมาะกับอากาศเมืองร้อนบ้านเรา

บรรยากาศ: ทะเล เย็นสบาย สดชื่น
โทนสี: ฟ้า ขาว น้ำเงิน เขียว
จุดเด่น: มีสีฟ้าและขาวเป็นสีหลักเพื่อให้เกิดจินตนาการถึงท้องทะเล เน้นตกแต่งโดยใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น โต๊ะไม้ เก้าอี้หวาย ของตกแต่งชิ้นเล็ก อย่างเปลือกหอย ผนังปูนโชว์พื้นผิวไม่เรียบ ฝาที่โชว์โครงไม้สีอ่อน เพิ่มกระจกติดผนังเพื่อให้บ้านปรอดโปร่งได้รับแสงอย่างทั่วถึง

 

ที่มา https://www.en.co.th/%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B5/